วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

บทที่ 4 กิจกรรมการเรียนการสอน

บทที่ 4  กิจกรรมการเรียนการสอน
ความหมายของกิจกรรมการเรียนการสอน
หมายถึง การกระทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างบทเรียน อันเนื่องมาจากการที่ผู้สอนสื่อความหมายกับผู้เรียนโดยใช้สื่อชนิดต่าง ๆ 
ความสำคัญของกิจกรรมการเรียนการสอน
1.   ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้ดี
2.   ช่วยส่งเสริมความเจริญงอกงามและพัฒนาการของเด็ก
3.   ช่วยเล้าความสนใจของเด็ก
4.   ช่วยขยายความรู้และประสบการณ์ของเด็กให้กว้างขึ้น
5.   ช่วยเปิดโอกาสให้นักเรียนประสบความสำเร็จ
6.   ช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดี
7.   ช่วยส่งเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ
8.   ช่วยปลูกฝังและส่งเสริมความคิดริเริ่ม
9.   ช่วยปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตย
จุดประสงค์ของกิจกรรมการเรียนการสอน
1. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทางร่างกาย  อารมณ์  สังคมและสติปัญญา
2. เพื่อสนองความสามารถ  ความถนัด ความสนใจของผู้เรียน
3. เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนการสอน
หลักการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
คือ  แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ทำให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ 
หลักการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
           1.   สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของหลักสูตร
           2.   สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาบทเรียน
           3.   จัดกิจกรรมที่แสดงถึงความชัดเจนของขั้นตอนการเรียนรู้
           4.   สอดคล้องและเหมาะสมกับวัย ความสามารถและความสนใจของผู้เรียน
ประเภทของกิจกรรมการเรียนการสอน
           1.   กิจกรรมการเรียนการสอนที่ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  
           2.   กิจกรรมการเรียนการสอนที่ยึดครูเป็นศูนย์กลาง 
กิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้ทั่วไป
           1.   การรายงานหน้าชั้นเรียน
           2.   สถานการณ์จำลอง
           3.   การสัมภาษณ์
           4.   การเชิญวิทยากร
ขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
1.การนำเข้าสู่บทเรียน
คือ  ทักษะที่ครูใช้ในการจัดกิจกรรมก่อนเริ่มสอน เพื่อเป็นการเตรียมนักเรียนให้มีความคิดว่ากำลังเรียนเรื่องอะไร  สามารถนำเอาความรู้และทักษะที่นักเรียนมีอยู่เดิมมาสัมพันธ์กับบทเรียนที่ครูสอนได้ 
2.ขั้นสอน
เป็นขั้นการสอนที่ครูผู้สอนจะต้องสอนให้ผู้เรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจ ได้ตรงตามเนื้อหาสาระที่จะสอน
3.ขั้นสรุปและวัดผล
การสรุป  เป็นการสรุปเนื้อหาที่เรียนมาทั้งหมด สรุปทั้งด้าน ความรู้ ความคิด เจตคติและทักษะการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 

วิธีสอน
ความหมายของวิธีสอน
หมายถึง  การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมแก่ผู้เรียนเพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามและพัฒนาไปในทางที่พึ่งปรารถนา สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ความสำคัญของวิธีสอน
       1.   ต้องเหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน
       2.   สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการสอน
       3.   ผสมผสานวิธีการสอนแบบต่าง ๆ
ประเภทของวิธีสอน
1.จำแนกโดยใช้จำนวนผู้เรียน   จำแนกได้ 3 ประเภท
1.1  การสอนเป็นกลุ่มใหญ่  คือ  มีจำนวนผู้เรียนมาก ผู้สอนมีบทบาทเกือบทั้งหมด 
1.2 การสอนเป็นกลุ่มย่อย  คือ  มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนมากที่สุด
1.การสอนที่เป็นรายบุคคล คือ  ผู้เรียนสามารถเลือกวิธีเรียนที่เหมาะสมกับความสนใจและความสามารถของผู้เรียน
2.จำแนกโดยปริมาณของบทบาทผู้สอนและบทบาทของผู้เรียนเป็นเกณฑ์จำแนกเป็น  4  ประเภท
2.1  วิธีสอนแบบครูเป็นศูนย์กลาง คือ วิธีการสอนที่ครูผู้สอนเป็นผู้จัดและดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นส่วนใหญ่
2.2 วิธีสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  คือ วิธีการสอนที่ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติ กิจกรรมการเรียนการสอนส่วนใหญ่ จะศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง
2.3 วิธีการสอนแบบผู้สอนและผู้เรียนมีกิจกรรมร่วมกัน  คือ  เป็นการสอนที่ผู้สอนและผู้เรียนมีบทบาทพอๆกันมีการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน
2.4  การสอนโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ  คือ  บทบาทการสอนทั้งหมดจะอยู่ที่โสตทัศนอุปกรณ์ที่ใช้
วิธีการสอนที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน
  1.  การสอนแบบบรรยาย  (Lecture Method)  เป็นการสอนที่ผู้สอนบอกเล่าอธิบายเนื้อหา  เตรียมการศึกษาค้นคว้าเนื้อหามาถ่ายทอดให้ผู้เรียน
2.การสอนแบบอภิปราย (Discussion Method)  เป็นการสอนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
3. การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method)  เป็นการสอนที่ผู้สอนมีหน้าที่วางแผนการสอนเป็นส่วนใหญ่ มีการแสดงหรือกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
4.การสอนแบบปฏิบัติการ (Laboratory) เป็นการสอนที่ใช้ผู้เรียนกระทำกิจกรรมการเรียนภายใต้การแนะนำช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
5.การสอนแบบสัมมนา (Seminer)  เป็นการสอนที่ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าออย่างลึกซึ้งแล้วนำมาเสนอโดยอภิปราย
6.การสอนโดยการแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing) เป็นการสอนที่ให้ผู้เรียนแสดงบทบาทในสถานการณ์ที่สมมุติขึ้น
7.การสอนแบบแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นการสอนที่ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์
8.การสอนแบบอุปนัย (Inductive  Method) เป็นการสอนแบบปลีกย่อยมหา กฎเกณฑ์ หรือสอนจากตัวอย่างไปหาข้อสรุป
9.การสอนแบบนิรนัย (Deductive  Method) เป็นการสอนที่เริ่มจากกฎเกณฑ์หรือหลักการต่างๆ แล้วให้ผู้เรียนหาเหตุผล หลักฐานมายืนยัน
10.การสอนแบบโครงการ (Project Method) เป็นการสอนที่ให้ผู้เรียนได้วางโครงการและการดำเนินงานให้สำเร็จตามโครงการ เป็นการสอนที่สอดคล้องกับความจริง  ผู้เรียนทำงานด้วยการตั้งปัญหาและดำเนินการแก้ปัญหาด้วยการลงมือทำจริง
11.การสอนแบบค้นพบความรู้ (Discovery) เป็นการสอนที่ผู้เรียนค้นคว้าคำตอบหรือความรู้ด้วยตัวเอง
12.การสอนโดยการใช้โสตทัศนูปกรณ์ (Audio-visual Media) เป็นการสอนที่ใช้อุปกรณ์การสอนต่าง ๆ เช่น สไลด์ ภาพยนตร์
เกณฑ์การเลือกวิธีสอน
1.   วิธีควรเหมาะสมกับความสามารถความรู้ในเนื้อหาวิชาและความสนใจของผู้สอน
2.   วิธีสอนควรเหมาะสมกับผู้เรียน เช่น วัย ความสามารถ ความสนใจ
3.   วิธีสอนต้องเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียน
4.   วิธีสอนจะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาวิชา
5.   วิธีสอนจะต้องสอดคล้องกับเวลาและสถานที่
6.   วิธีสอนจะต้องเหมาะสมกับอุปกรณ์และสิ่งแวดล้อม

กลวิธีการสอน
ความหมายของกลวิธีการสอน(Instructional Stray)
หมายถึง  การจัดเลือกวิธีการสอน (Teaching Methods) วิธีใดวิธีหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งวิธี บวกกับเทคนิคการสอนต่าง ๆ
ลักษณะกลวิธีการสอน
กลวิธีการสอนไม่ต้องมีรากฐานทางปรัชญาอย่างลึกซึ่ง เช่นการเชิญวิทยากรเวลาของแผนการสอนไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากกลวิธีการสอนจะมีลักษณะง่ายๆโดยธรรมชาติ
มีวัตถุประสงค์เดียวกัน
ลักษณะของวิธีการสอน
        1. วิธีการสอนแต่ละวิธีจะมีรากฐานทางปรัชญา
        2.   วิธีการสอนแต่ละวิธีจะมีความซับซ้อนโดยธรรมชาติเกี่ยวข้องกับกิจกรรมมากมาย
        3.   วิธีการสอนแต่ละวิธีจะช่วยนักเรียนให้พัฒนาทักษะต่าง ๆ  นำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนอื่น ๆได้
กลวิธีการสอนที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ได้แก่
        1.   การสอนเป็นรายบุคคล
        2.   กิจกรรมการฝึกฝน
        3.   การไปทัศนศึกษา
        4.   การอภิปรายเป็นหมู่คณะ
        5.   การสาธิต

การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ
ความหมายของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ
กระบวนการ  คือ  แนวทางการดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มีขั้นตอนซึ่งวางไว้อย่างเป็นลำดับตั้งแต่ต้นจนจบตามจุดประสงค์ที่กำหนด
กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
           1.   ทักษะกระบวนการ 9 ประการ
           2.   กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
           3.   กระบวนการสร้างความตระหนัก
           4.   กระบวนการปฏิบัติ
           5.   กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ขั้นตอนในการสอนโดยใช้กระบวนการต่างๆ
1.ทักษะกระบวนการ 9 ประการ ใช้กับบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือภาคปฏิบัติการเรียนรู้ผ่านทักษะกระบวนการ 9 ประการมีขั้นตอนในการสอนดังนี้
           1.   ขั้นตระหนักในปัญหาและความจำเป็น
           2.   ขั้นคิดวิเคราะห์วิจารณ์  คือ นำปัญหามาแยกแยะความสำคัญ
           3.   ขั้นสร้างทางเลือกที่หลากหลาย คือ ให้ผู้เรียนเสนอแนวทางแก้ไข
           4.   ขั้นประเมินผลและเลือกทางเลือก        
           5.   ขั้นกำหนดและลำดับขั้นในการปฏิบัติ
           6.   ขั้นปฏิบัติอย่างชื่นชม  คือ ครูคอยติดตามให้กำลังใจ
           7.   ขั้นประเมินระหว่างการปฏิบัติการ คือ รายงานผลการปฏิบัติและความถูกต้อง
           8.   ขั้นปรับปรุง  คือ มีปัญหาในการทำงานให้เสนอแนะและนำไปปรับปรุงแก้ไข
           9.   ขั้นประเมินผลรวมด้วยความภาคภูมิใจ  คือ สรุปผลการทำงาน
  
2.กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
เหมาะสำหรับการสอนแนวคิดเรื่องที่อ่าน สอนค่านิยม สอนคำศัพท์   การเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการปฏิบัติ มีขั้นตอนดังนี้ขั้นสังเกต
           1.   ขั้นจำแนกความแตกต่าง
           2.   ขั้นลักษณะร่วม  สรุปของประเด็นปัญหาเป็นวิธีการ หลักการ
           3.   ระบุชื่อความคิดรวบยอด
           4.   ขั้นทดสอบและนำไปใช้
3. กระบวนการสร้างความตระหนัก
เป็นกระบวนการที่ทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ เอาใจใส่และเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียนการเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการสร้างความตระหนัก
           1.   ขั้นสังเกต คือ ได้สัมผัสกับปัญหา
           2.   ขั้นวิจารณ์  คือ เห็นผลดีและผลเสียของการแก้ไขปัญหา
           3.   ขั้นสรุป  คือ  เห็นความสำคัญและพร้อมจะแก้ไข
4. กระบวนการปฏิบัติ
1.   ขั้นสังเกตรับรู้
2.   ขั้นทำตามแบบ
3.   ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ
4.   ขั้นฝึกให้ชำนาญ
5. กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
          1.   ขั้นสร้างความคิดรวบยอด
          2.   ขั้นอธิบาย
          3.   ขั้นการรับฟัง
          4.   ขั้นเชื่อมโยงความสัมพันธ์
          5.   ขั้นวิจารณ์
          6.   ขั้นการสรุป
6. กระบวนการแก้ปัญหา
           1.   ขั้นสังเกตปัญหา
           2.   ขั้นวิเคราะห์ปัญหา
           3.   ขั้นสร้างทางเลือก
           4.   ขั้นเก็บข้อมูลประเมินทางเลือก
           5.   ขั้นสรุปการแก้ปัญหา
7.กระบวนการกลุ่ม
           1.   ขั้นการมีผู้นำกลุ่ม
           2.   ขั้นกำหนดจุดประสงค์และวิธีการ
           3.   ขั้นวางแผนโดยรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิก
           4.   ขั้นปฏิบัติงาน
           5.   ขั้นติดตามผลและปรับปรุง
           6.   ขั้นการประเมินผลและชื่นชมงาน
8. กระบวนการสร้างเจตคติ
           1.   ขั้นสังเกต
           2.   ขั้นวิเคราะห์
           3.   ขั้นสรุป
9. กระบวนการสร้างค่านิยม
            1.   ขั้นสังเกตตระหนัก  โดยให้กรณีตัวอย่างและจำแนกการกระทำที่ต่างกันได้
            2.   ขั้นประเมินเชิงเหตุผล  โดยวิเคราะห์การกระทำว่าเห็นด้วยหรือไม่เพราะเหตุใด 
            3.   ขั้นกำหนดค่านิยม  แสดงจุดยืนความเชื่อ พอใจพร้อมเหตุผล
            4.   ขั้นแนวทางปฏิบัติ
            5.   ขั้นปฏิบัติด้วยความชื่นชม
10. กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ
            1.   ขั้นสังเกตและตระหนัก
            2.   ขั้นวางแผนปฏิบัติ
            3.   ขั้นลงมือปฏิบัติ
            4.   ขั้นพัฒนาความรู้ความเข้าใจ
            5.   ขั้นสรุป








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น